วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ประเพณีบุญบั้งไฟ


ประเพณีบุญบั้งไฟ
ประเพณีบุญบั้งไฟ หรือประเพณียิงจรวดไทยขอฝนนี้ ความจริงไม่ใช่ประเพณีเฉพาะของชาวเมืองยโสธร แต่เป็นฮีด(จารีต)สำคัญ ฮีดหนึ่งของชาวอีสานทั่วทั้งภูมิภาค หากแต่ชาวยโสธรโยเฉพาะชาวคุ้มบ้านต่าง ๆ ในเขตอำเภอเมืองนั้นให้ความสำคัญ และร่วมแรงร่วมใจกันจัดงานอย่างแข็งขัน จนทำให้ประเพณีบุญบั้งไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน และในที่สุดด้วยความช่วยเหลือจากภาครัฐและเอกชนอีกหลาย ๆ ส่วน
บุญบั้งไฟยโสธร จึงเลื่อนฐานะขึ้นเป็นประเพณีสำคัญของประเทศ เป็นตัวแทนจากภาคอีสานที่เชิดหน้าชูตาในด้านวัฒนธรรมประเพณีของชาติ


รูปแบบประเพณี
ในวันนี้ ประเพณีบุญบั้งไฟ แบ่งงานออกเป็นงานใหญ่ ๆ สองงานด้วยกันคือวันแรก เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. เป็นขบวนแห่บั้งไฟสวยงามไปตามถนนสายหลักใจกลางเมือง
ในวันนี้ชาวบ้านจากคุ้มต่าง ๆ จะนำบั้งไฟขึ้นขบวนรถที่ตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามเป็นลวดลายไทยงามวิจิตร นำแห่แหนด้วยขบวนรำประกอบดนตรีพื้นเมือง บนขบวนรถบางทีจะเป็นธิดาบั้งไฟโก้ เทพบุตรเทพธดาตัวน้อย ๆ หรือแม้กระทั่งเรื่องราวจำลองจากนิยายพื้นบ้านปรัมปรา เช่นเรื่องท้าวผาแดง นางไอ่ เป็นต้น นอกจากนี้ที่จะขาดไม่ได้ก็คือขบวนรีวิวประเภทเนื้อหาสาระและตลกขบขันต่าง ๆ ที่เปิดโอกาสให้ชาวเมืองที่ต่างอายุกันได้มีโอกาสเข้าร่วมงานอย่างเสมอหน้าและ มาประกวดประชันกันอย่งสนุกสนาน
ส่วนวันที่สองเริ่มแต่เช้าที่สวนพญาแถนเป็นการประกวดการจุดบั้งไฟ มีการประกวดบั้งไฟขึ้นสูงแบะยั้งไฟแฟนซีต่าง ๆ ในขณะที่ชาวบ้านชาวคุ้มต่าง ๆ ก็จะยกขบวนออกร้องรำทำเพลงกันตลอดทั้งวันอย่างสนุกสนาน

จุดเด่นของพิธีกรรม
จุดเด่นของการชมประเพณีบุญบั้งไฟ อยู่ที่ช่วงเช้าของวันแรกคือวันแห่บั้งไฟสวยงาม สามารถชมได้ที่ปะรำพอธีถนนใจกลางเมือง และช่วงเช้าวันที่สอง คือการจุดบั้งไฟขึ้นสูงที่สวนสาธารณะพญาแถน

ตำนานเรื่องเล่า
ตำนานของประเพณีบุญบั้งไฟ ผูกพันกับนิทานพื้นบ้านสองเรื่องคือเรื่องท้าวผาแดงนางไอ่ และเรื่องสงครามระหว่างพญาคันคากกับพญาแถน ซึ่งเป็นเรื่องที่กล่าวถึงที่มาของการยิงบั้งไฟเลยทีเดียว
ตำนานเรื่องนี้เริ่มจากพระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นพญาคันคาก (คางคก) อาศัยอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ครั้งนั้น พญาแถน เทพผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ผู้ดลบันดาลให้ฝนตก เกิดไม่พอใจชาวโลกจึงบันดาลให้ฝนไม่ตก เกิดไม่พอใจชาวโลกจึงบันดาลให้ฝนไม่ตกเลยตลอด 7 ปี 7 เดือน 7 วัน ชาวเมืองทนไม่ไหวจึงคิดทำสงครามกับพญาแถน แต่สู้พญาแถนกับกองทัพเทวดาไม่ได้ ถูกไล่ล่าหนีมาถึงต้นไม้ใหญ่ที่พญาคันคากอาศัยอยู่
ในที่สุดพญาคันคากตกลงใจเป็นจอมทัพของชาวโลกต่อสู้กับพญาแถน
พญาคันคากให้พญาปลวกก่อจอมปลวกขึ้นไปจนถึงสวรรค์ ให้พญามอดไม้ไปทำลายด้ามอาวุธของทหารและอาวุธพญาแถน และให้พญาผึ้ง ต่อ แตนไปต่อยทหารและพญาแถนฝ่ายเทวดาพ่ายแพ้ พญาแถนจึงให้คำมั่นยีร หากมนุษย์ยิงบั้งไฟขึ้นไปเตือนเมื่อไรจะรีบบันดาลให้ฝนตกลงมาให้ทันทีและถ้ากบเขียดร้องก็ถือเป็นสัญญาณว่าฝนได้ตกลงถึงพื้นแล้ว
และเมื่อใดที่ชาวเมืองเล่นว่าวก็เป็นสัญญานแห่งการหมดสิ้นฤดูฝน พญาแถนก็บันดาลให้ฝนหยุดตก

การออกกำลังกาย




การออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย ไม่จำเป็นจะต้องเป็นการไปเข้าศูนย์ฟิตเนสชั้นนำต่าง ๆ ที่มีอยู่อย่างเกลื่อนกราดในยุคสมัยนี้เสมอไป การออกกำลังกายนั้น แค่เราทำงานบ้านที่บ้านตัวเองนั้น ก็ถือเป็นการออกกำลังกายที่ได้ผล และเกิดสัมฤทธิ์ผลที่ดีที่สุดแล้ว

แต่ที่ดิฉันจะนำเสนอในวันนี้คือ การเต้น ,, เมื่อพูดถึงการเต้น เชื่อว่าใครหลายคนอาจมองว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเต้นไม่ได้ เต้นไม่เป็น เป็นเรื่องที่ไกลตัว ทำไม่ได้แน่ ๆ .........เปลี่ยนความคิดซะ !!!

ดิฉันก้อไม่ได้เกิดมาแล้วเต้นเป็นเลยแต่อย่างไร เรื่องแบบนี้ฝึกและฝนเอาก็สำเร็จแล้วล่ะค่ะ ที่ดิฉันเชียร์ให้ออกกำลังกายด้วยการเต้นนั้น เป็นเพราะว่า
หนึ่ง ~ ทำให้การออกกำลังกายเป็นสิ่งไม่น่าเบื่อ
สอง ~ ท้าทายตนเองและร่างกายตนเอง
สาม ~ เกิดผลลัพธ์ที่ดี (การันตีด้วยตัวเองเลยข้อนี้)
สี่ ~ เป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้จริง และเปนไปได้จริง

สูตรผมสวย


สูตรผมสวย
การแปรงผมบ่อย ๆ จะไปช่วยกระตุ้นต่อมไขมันบนหนังศีรษะให้เร่งผลิตน้ำมันตามธรรมชาติมาบำรุงเส้นผมให้เงางามและนุ่มสลวย แต่ในอดีตนั้นยังไม่มีพัฒนาการในเรื่องของการทำสีผม หรือการทำเคมีต่าง ๆ กับเส้นผม เส้นผมเป็นผมธรรมชาติจึงสามารถใช้วิธีนี้ได้ แต่ถ้าเป็นปัจจุบันนี้ที่หลายคนนิยมทำเคมีผมทำให้เส้นผมแตกปลายได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการดูแลรักษาเส้นผมอย่างแท้จริง จึงขอแนะนำว่าควรแปรงผมเป็นประจำแค่ช่วงเช้าและเย็น เพื่อขจัดฝุ่นผงและสิ่งสกปรกให้หลุดออกจากเส้นผม แต่ทั้งนี้ไม่ควรแปรงผมขณะที่ผมเปียกเพราะขณะนั้นเส้นผมจะมีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งทำให้เส้นผมแตกหักได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้การเลือกแปรงให้เหมาะกับลักษณะเส้นผมหรือทรงผมก็มีส่วนสำคัญด้วยเช่นกัน

ผมยาว ควรเลือกแปรงที่มีขนแปรงเป็นเหล็กและบุด้วยยาง จะช่วยให้เส้นผมไม่พันกันขณะหวี ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตที่ทำให้ผมชี้ฟูไม่เป็นทรงได้ด้วย หรือถ้าต้องการจัดทรงก็ควรใช้แปรงกลมขนาดใหญ่ที่ช่วยให้จัดทรงได้ง่ายขึ้น และทำให้ปลายผมได้รูปสวยไม่ชี้ไปชี้มา
ผมยาวประบ่า ควรเลือกแปรงที่มีขนแปรงเรียวเล็กและบุด้านหลังด้วยยาง ถ้าขนแปรงยาวจะช่วยให้เส้นผมไม่พันกัน ส่วนขนแปรงสั้นจะช่วยให้ผิวของเส้นผมเรียบลื่นนุ่มสลวยตลอดเส้น
ผมสั้น ควรเลือกแปรงที่มีรูปรงสี่เหลี่ยม ขนแปรงสั้นยาวสลับกัน จะช่วยยกโคนผมให้ดูมีวอลลุ่มและไม่ลีบแบน
ผมหยักศก ควรเลือกใช้หวีที่มีลักษณะคล้ายคราดแทนแปรง โดยเลือกที่ด้ามหวีกว้าง แบน และห่าง เพราะหวีลักษณะนี้จะช่วยรักษาสภาพลอนผมให้เป็นทรงไม่ฟูได้เป็นอย่างดี
ผมมัน ให้นำว่านหางจระเข้มาฝานเปลือกออก แล้วนำเจลไปปั่นจากนั้นตักมา 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา และแชมพูที่ใช้อยู่อีก 1 ถ้วยตวงแล้วนำไปสระผมตามปกติ จะช่วยให้เส้นผมมีสมดุลดีขึ้น ไม่แห้งและไม่มันเช่นเดิม
ผมแห้ง นำอโวคาโด 1 ผลมาปอกเปลือกและบดให้ละเอียด ผสมกับกะทิจนเป็นเนื้อเดียวกันใช้หมักผมหลังจากสระผมเรียบร้อยแล้วโดยนวดให้ทั่วศีรษะ ใช้หวีซี่ห่างๆ แปรงผมให้เป็นระเบียบแล้วทิ้งไว้ 15 นาทีจึงล้างออก
ผมจัดทรงยาก ปั่นครีมนวดผม 1/2 ถ้วยตวงเข้ากับน้ำผึ้ง 1/2 ถ้วยตวงและน้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มานวดเส้นผมและหนังศีรษะขณะเปียกให้ทั่ว ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออก
ผมไร้น้ำหนัก ใช้น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง ผสมน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง ล้างผมในน้ำสุดท้ายของการสระผมจะทำให้เส้นผมนุ่นเป็นประกายเงางาม
ผมมีรังแค หลังจากสระผมด้วยแชมพูขจัดรังแคตามปกติแล้ว ให้ใช้ชาโรสแมรี่ที่ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วมาล้างผมในน้ำสุดท้าย หรือใช้ชาโรสแมรี่ผสมกับแชมพูในอัตราส่วน 70 ต่อ 30 ก็ได้

เทคนิคการทาเล็บ


เทคนิคการทาเล็บ
ก่อนที่จะบรรจงแต่งแต้มเฉดสีลงบนเล็บของเรา ควรแช่มือในอ่างน้ำที่บีบมะนาวหรือน้ำส้มสายชูไว้สักพักนึง ซึ่งจะช่วยให้เล็บอ่อนนุ่มขึ้น การใช้น้ำยารองพื้นทาเล็บเป็นชั้นแรกก็ถือเป็นการดูแลเล็บที่ดี เพราะเวลาทาเล็บสีเข้มๆ เล็บมักจะเหลืองง่าย แต่ถ้าเราทาลองพื้นไว้ก่อนก็จะช่วยบรรเทาอาการเล็บเหลืองได้ แล้วเวลาที่ ทาสีเล็บก็ไม่ควรป้ายเกิน 3 ครั้ง เพราะสีจะจับเป็นก้อนไม่เรียบเสมอกัน รวมถึงอย่าลงสีเล็บเกิน 2 ชั้นเพราะจะดูหนาไป ไม่สวย ควรทาน้ำยาเคลือบเล็บหลังจากทาสีเสร็จแล้วด้วย เพราะจะช่วยเพิ่มความเงางามวิบวับให้กับเล็บ แถมยังป้องกันสีเล็บจางจากแสงแดดอันร้อนระอุ อีกด้วย แล้วถ้ายาทาเล็บในขวดใสๆ ระเหยจนข้นเหนียว ก็ให้หยดทินเนอร์ลงซักเล็กน้อยก่อนจะเขย่าให้เป็นเนื้อเดียวกัน ก็สามารถใช้ทาต่อได้วิธีการเก็บยาทาเล็บที่ดีควรจะปิดฝาให้สนิทก่อนจะเก็บไว้ในที่เย็น ห่างไกลแสงแดด อย่างเช่นช่องเล็กในตู้เย็น การเลือกยาทาเล็บ ควรดูส่วนผสมด้วยค่ะ ยาทาเล็บที่ดีไม่ควรมีแอลกอฮอล์ เพราะว่าแอลกอฮอล์จะเป็นตัวทำให้ผิวเล็บแห้งและเปราะง่าย

ลักษณะผิวของคนเราไม่เหมือนกัน การเลือกอาหารที่จะมาบำรุงผิวก็เลยต้องแตกต่างกันไปด้วย



ลักษณะผิวของคนเราไม่เหมือนกัน การเลือกอาหารที่จะมาบำรุงผิวก็เลยต้องแตกต่างกันไปด้วย

สาวผิวแห้ง

DO ทานปลาน้ำลึกที่มีโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า รวมทั้งเมล็ดธัญพืช ถั่วเปลือกแข็งที่มีไขมันชนิดดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

Don't เลิกทานของมัน ของทอด เช่น แฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟราย เค้ก กล้วยแขก ขาหมู เพราะน้ำมันจากอาหารพวกนี้เป็นน้ำมันชนิดเลวที่จะทำให้ผิวหนังอ่อนแอ ดูหมองไม่มีน้ำมีนวลยิ่งกว่าเดิม

สาวผิวมัน

Do ทานผักผลไม้สดๆ ที่มีวิตามินซีสูง เพื่อบำรุงเซลล์ให้แข็งแรง ถ้าร่างกายได้สมดุล อาการผิวมันจะค่อยๆ ลดลงเอง

Don't งดอาหารประเภทที่มีไขมันอิ่มตัว อย่างเนื้อแดง ไขมันสัตว์ ของทอด นมชนิดไม่พร่องมันเลย อาหารพวกนี้จะทำให้ผิวขาดสมดุล และยังกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากจนหน้าสวยๆ ของคุณมันเยิ้มทอดไข่ได้เลย

สาวผิวแพ้ง่าย

Do คนผิวแพ้ง่ายถูกโฉลกกับอาหารที่มีวิตามินเอและซีมากๆ เช่น แครอท มะม่วง กีวี เนื้อสัตว์ ข้าวโอ๊ต และถั่วเปลือกแข็ง อาหารพวกนี้มีธาตุสังกะสีที่จะเพิ่มความแข็งแรงให้เซลล์ผิว

Don't พอกันทีกับอาหารรสจัด เปรี้ยวจี๊ดเผ็ดซี้ดซ้าด หรือเค็มปี๋ เพราะของพวกนี้มีแต่จะทำให้ระบบการย่อยของร่างกายเกิดการระคายเคือง เยื่อเซลล์บุอักเสบ ผิวพรรณก็เลยหมองหมดออร่าไปด้วย

4 เคล็ดลับลดน้ำหนักช่วงหน้าร้อน

4 เคล็ดลับลดน้ำหนักช่วงหน้าร้อน





4 เคล็ดลับลดน้ำหนักช่วงหน้าร้อน

ถึงหน้าร้อนทีไร ใคร ๆ ก็คงอยากจะมีหุ่นสวยใส่บิกินีตัวจิ๋วไปอวดสรีระอันเช้งวับ แต่ถ้าคุณยังมีพุงกะทิน้อยๆ อยู่ล่ะก็ ลองพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ใช้ซัมเมอร์นี้มาลดความอ้วนกันซะเลย ด้วย 4 วิธีที่ทั้งสนุกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอหุ่นสวยก่อนจะถึงหน้าร้อนปีหน้า



ดื่มน้ำเยอะ ๆ เข้าไว้ ยิ่งร้อนก็ยิ่งกระหายน้ำ ดื่มเข้าไปเยอะ ๆ เลยค่ะ เพราะนอกจากน้ำจะไม่มีแคลอรียังทำให้ระบบการย่อยอาหารของคุณดีด้วย ควรหลีกเลี่ยงน้ำหวาน น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มชูกำลังเมื่อเสียเหงื่อมาก ๆ เพราะความหวานจากน้ำตาลคือตัวการสำคัญที่ทำให้อ้วนเลยล่ะ


ลงไปว่ายในสระน้ำ หลีกเลี่ยงการน้ำในทะเล หรือทะเลสาบไปก่อน ถ้าคุณอยากลดน้ำหนักให้ไปว่ายในสระน้ำแทน เพราะการว่ายในสระจะได้ท่วงท่าและวัดปริมาณการออกกำลังได้มากกว่า ด้วยขนาดจำกัดของพื้นที่สระทำให้ได้ผลที่รวดเร็ว


ออกไปเรียกเหงื่อข้างนอกสิ แดดร้อน ๆ นี่แหละดี อย่ามัวเก็บตัวอยู่ในห้อง ไปออกกำลังกายด้วยการเดินหรือวิ่งในสวนก็ได้ หน้าร้อนแบบนี้การออกกำลังกายกลางแจ้งกลับได้ผลดีกว่าการไปฟิตเนส และต้องอย่าลืมพกน้ำดื่มติดตัวไปด้วย เพราะหน้าร้อนจะยิ่งทำให้คุณเสียเหงื่อมาก และอาจจะเป็นลมกลางแดดได้


หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ปาร์ตี้หน้าร้อนขาดไม่ได้ที่จะต้องมีเครื่องดื่มมึนเมา แต่รู้ไหมว่าเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นี่แหละ เป็นตัวกักเก็บระบบเผาผลาญไขมันของคุณดีทีเดียว ที่สำคัญแอลกอฮอล์ยังทำให้คุณรู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลาด้วย แต่ถ้าหลีกเลี่ยงปาร์ตี้สุดมันไม่ได้จริง ๆ แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดตามไปพร้อม ๆ กัน

แต่งตัวอย่างไร ให้ดูผิวขาว


แต่งตัวอย่างไร ให้ดูผิวขาว





คนทุกเพศทุกวัย ใครๆก็อยากที่จะมีผิวขาวกันเนอะ เพราะผิวขาวน่ะจะใส่อะไรก็สวย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า โอ๊ย!…สารพัด แต่คนผิวเข้มหรือผิวคล้ำก็ไม่ต้องน้อยอกน้อยใจไป มีวิธีในการแต่งตัวให้ดูดีได้ไม่แพ้คนผิวขาวแน่นอน



เริ่มด้วยสีสันของเสื้อผ้ากันดีกว่า สำหรับคนผิวขาวจะเลือกแต่งสีสันสดใสยังไงก็ได้ ในขณะที่คนผิวคล้ำต้องเลือกสีสันที่ไม่ตัดกันจนเกินไป เพียงแค่ปรับเอาสีสันมาใส่กะสีพื้นๆเท่านั้น ตัวอย่างเช่น เสื้อสีนู๊ดๆ กับ กระโปรงสีดำมีโบว์เล็กๆน่ารักหรือกางเกงยืนฟอก(ที่สีซีดๆน่ะจ๊ะ)ก็น่ารักไปอีกแบบเหมือนกัน และที่สำคัญยังดูโดดเด่นและดูดีได้อีกด้วยนะ

การจะแต่งตัวให้ดูดีนั้นต้องมาควบคู่กับความมั่นใจนะจ๊ะ แต่ละคนไม่ว่าจะผิวขาวหรือผิวคล้ำก็มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน เราจึงควรที่จะดึงจุดเด่นของตัวเองออกมานะคะ อย่างเช่น ผิวคล้ำแต่ขาสวย ก็อาจจะเลือกใส่กระโปรงสั้นหรือกางเกงขาสั้นก็ดูสวยมั่นใจและโฉบเฉี่ยว หรือถ้าผิวคล้ำเรียบเนียนก็ลองใส่เสื้อเปิดไหล่ดูสิ ดูดีไปอีกแบบคะ

มาดูเครื่องประดับกันบ้างดีกว่าคะ เครื่องประดับเป็นสิ่งที่ช่วยให้การแต่งตัวให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้น และยังช่วยขับผิวอีกด้วยนะ เช่น สร้อยไข่มุก เสื้อผ้าที่ใส่ก็ควรเป็นแบบเปิดหน่อยค่ะ เช่น เสื้อแขนกุด สายเดี่ยว เกาะอก เป็นต้นค่ะ เพราะไม่เหมาะกับเสื้อผ้าหนักๆ สวมทับหลายๆตัวอย่าง เสื้อเชิ้ตใส่สูททับ

แค่นี้เราก็ดูดีได้ในสไตล์ของตัวเองแล้วนะค่ะ เพียงแค่เรารู้จักจับนู่นแต่งนี่ให้เข้ากับบุคลิก ดึงจุดเด่น ลบจุดด้อย ก็สวยไม่แพ้ใครแล้วคะ

ถั่วเขียว...ลบจุดด่างดำ




ถั่วเขียว...ลบจุดด่างดำ
หากคุณแม่หรือคุณยายเคยทำถั่วเขียวต้มน้ำตาลให้กิน เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับถั่วเม็ดเล็กๆนี้เป็นอย่างดี

โบราณกินถั่วเขียวเพื่อช่วยเยียวยาสารพัดอาการ ถั่วเขียวนอกจากเป็นอาหารแล้วจึงเป็นยาไปในตัว สำหรับหนุ่มๆ สาวๆ สมัยนี้ที่ชอบใช้ชีวิตกลางแจ้ง ต้องออกแดดบ่อยๆ จนเกิดจุดด่างดำบนผิว หรือการเผลอไปบีบสิวจนมีรอยดำๆ ทิ้งไว้ หรือแม้แต่รอยแผลที่เกิดจากผื่นคันตามร่างกาย ถั่วเขียวก็ยังช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เพียงแต่ทำตามสูตรง่ายๆที่นำมาฝากวันนี้ค่ะ

ส่วนผสม

ถั่วเขียว 3 ช้อนโต๊ะ
มันฝรั่ง 1 หัว
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนชา

วิธีทำ

ทำได้ง่ายๆ โดยนำถั่วเขียวและมันฝรั่งมาล้างให้สะอาด แล้วนำไปต้มจนสุก แต่ไม่ต้องถึงกับเปื่อย จากนั้นนำถั่วเขียวและเนื้อมันฝรั่งที่ได้มาบดรวมกัน โดยไม่ต้องให้ละเอียดนัก เติมน้ำมันมะกอกลงไป ผสมจนเข้ากันดี

วิธีใช้

นำมาขัดผิวกายโดยเฉพาะบริเวณที่มีจุดด่างดำ ใช้เวลาขัดประมาณ 5 นาที เสร็จแล้วอาบน้ำหรือล้างออกด้วยสบู่ตามปกติ ส่วนผสมที่มีเนื้อและเปลือกถั่วเขียวที่บดหยาบๆ ผสมกับเส้นใยของมันฝรั่งบด จะช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ที่สดใสกว่าเดิม ทำเช่นนี้ทุกสัปดาห์ รอยด่างดำจะค่อยๆ เลือนหายไป






เคล็ดลับขจัดความมันบนเส้นผม
สาวๆ ที่กลุ้มใจกับสภาพเส้นผมที่มันเยิ้มมั่กๆ ขนาดเพิ่งสระผมมาตอนเช้าพอตกเย็นก็แปรสภาพไปซะแล้ว ทำให้ไม่มั่นใจเอาซะเลยค่ะ ไปไหนก็ต้องคอยรวบผม หมดโอกาสโชว์ผมยาวสลวยเลยซิคะ

ดูแลผิวแก้มใส … ให้ห่างไกลจุดด่างดำ


ดูแลผิวแก้มใส … ให้ห่างไกลจุดด่างดำ




ควรใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดที่มี SPF 15 ขึ้นไป

ควรใช้ครีมที่มีส่วนผสม AHA

บริโภคอาหารที่สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ , วิตามิน A C และ E , เซเลเนี่ยมและฟลาเวอนอย จะช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลายโดยแสงแดด

ควรใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ HYDROXYQUINONE วันละ 2 ครั้ง อย่างน้อย 6-8 อาทิตย์ จะช่วยเจือจางจุดสีน้ำตาลบนผิวได้

ควรใช้ครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอล ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลบเลือนรอยย่น และจุดด่างดำ

ปรึกษาแพทย์ในกรณีที่คุณ อยากกำจัดจุดด่างดำบนผิวหน้าให้หมดไปอย่างถาวร

ปรึกษาแพทย์ด่วน หากพบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับริ้วรอยจุดด่างดำ เช่น คัน หรือขยาย -ใหญ่ขึ้น ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังได้

การมาสก์หน้า


ได้ไอเดียดีๆ กันแล้วจากนี้ไปทุกคนคงเตรียมพร้อมรับสิ่งดีๆ ที่กำลังจะเข้ามาในชีวิต ด้วยความสดใสเปล่งปลั่งของสุขภาพผิวที่ดี และรอยยิ้มสดใสของสุขภาพกายแถมมาอีกด้วย

มาทำความรู้จักกับ ‘การมาสก์หน้า’ กันก่อน

การมาสก์หน้า เป็นขั้นตอนหนึ่งของการทำทรีตเมนต์บำรุงผิว ให้ผิวได้พักผ่อน และดูดซึมคุณค่าจากสารบำรุงที่เราพอกลงบนผิว ควรทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะสารบำรุงจากธรรมชาติ มีของ อร่อยหลายๆ อย่างที่จะไม่ทำให้เกิดอาการแพ้แก่ผิวหน้าเรา ว้าว...ชักจะเริ่มมองเห็นประโยชน์ของการมาสก์หน้ากันแล้วสิ คุณสาวๆ คงต้องลองทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้ผิวหน้าได้ดูดซึมสารอาหารอย่างต่อเนื่อง จะได้มีผิวหน้านุ่มๆ เอาไว้อวดความสวยใส ชนิดที่ใครๆ ต้องเหลียวมอง

สูตรน้ำผึ้ง : ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดให้แห้ง แล้วใช้ปลายนิ้วแตะน้ำผึ้งลูบไล้บนใบหน้าและลำคอเบาๆ สักครู่ แล้วนวดหน้าด้วยปลายนิ้วอย่างแผ่วเบาประมาณ 5 นาที จนน้ำผึ้งเหนียวนวดต่อไปไม่ได้แล้ว ก็ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ระหว่างนั้นให้นอนพักศีรษะอยู่ต่ำกว่าระดับปลายเท้า เพื่อให้เลือดไหลมาหล่อเลี้ยงที่ใบหน้าและลำคอได้สะดวกยิ่งขึ้น เมื่อครบเวลาแล้วค่อยๆ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดน้ำผึ้งออกให้สะอาด

สูตรแอปเปิ้ล : ปอกแอปเปิ้ลคว้านเอาไส้และเมล็ดออก บดให้ละเอียด ขณะที่บดให้ผสมน้ำผึ้งลงไปด้วย เมื่อบดจนเข้ากันดีแล้ว นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาที แล้วใช้นมสดเย็นๆ ล้าง ตามด้วยน้ำสะอาดอีกที

สูตรแตงโม : ฝานแตงโมเป็นชิ้นบางๆ จากส่วนที่แดงที่สุด นำมาแปะให้ทั่วใบหน้าแล้วใช้ผ้าคลุมหน้าไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

สูตรไข่ขาว : ต่อยไข่ไก่ 1 ฟอง แยกไข่แดงออกเทเฉพาะไข่ขาวลงในถ้วย ใช้ส้อมตีไข่ขาวจนเป็นฟองพอสมควร แล้วใช้แปรงขนนุ่มจุ่มไข่ขาวทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที หรือพอไข่ขาวเริ่มจับตัวแข็งแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

สูตรมะเขือเทศ : ฝานมะเขือเทศชิ้นหนาๆ ถูให้ทั่วใบหน้าและลำคอเบาๆ ตรงบริเวณที่มีสิวเสี้ยน มะเขือเทศมีวิตามินซีและกรด AHA จะช่วยลอกผิวหน้าที่ตายแล้วให้หลุดออกได้ หลังจากนั้นจึงค่อยใช้สำลีชุบน้ำเย็นเช็ดมะเขือเทศออกให้สะอาด

สูตรโยเกิร์ต : สำหรับทุกสภาพผิว โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ถ้วย น้ำมันดอกทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาวคั้นสดๆ 1 ช้อนโต๊ะ นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมให้เข้ากันแล้วพอกทั้งหน้า ทิ้งไว้ 15–20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดจะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น

สครับผิวสวยจากธรรมชาติ


สครับผิวสวยจากธรรมชาติ

การสครับผิวด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ เป็นวิธีเผยผิวใหม่ให้มีความชุ่มชื่น นุ่มนวล ซึ่งส่วนมากนิยมใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสารสกัดจากธรรมชาติ เพราะจะได้เม็ดสครับที่มีขนาดเล็ก ลดการเสียดสีระหว่างเม็ดสครับกับผิว พร้อมมีสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยย่อยสลายเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพอย่างอ่อนละมุน ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผิวจึงเนียนใสและมีสุขภาพดี ซึ่งสารสกัดจากธรรมชาติที่นิยมนำใช้ในการสครับผิวมีดังต่อไปนี้

“เมล็ดกาแฟ” มนต์มหัศจรรย์ของกาแฟอีน กาแฟมีคุณสมบัติในการรักษาและถนอมผิว ด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวขจัดพิษให้กับผิวชั้นนอก และกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวชั้นในให้ดูเปล่งปลั่ง พร้อมปรับสภาพความดันโลหิตและกระตุ้นการเผาผลาญไขมันใต้ชั้นผิวด้วย

“ใบชาเขียว” สมุนไพรสุดฮิตของคนตะวันออก มีคุณสมบัติช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง โดยจะขับสารแอนตี้ออกซิแดนท์ โพลีฟีนอล ที่มีความสามารถในการฟอกออกซิเจนให้ผิวกลับมาเปล่งปลั่ง นอกจากนี้ ยังมีสารกาเฟอีนและสารฝาดแคททิคิน ที่ช่วยในกระบวนการเมตาบอลิซึมในร่างกายให้ดีขึ้น เผาผลาญไขมัน ลดริ้วรอยในชั้นผิว ทำให้ผิวกระจ่างและสมบูรณ์ขึ้น

“ลาเวนเดอร์“ เอสเซนเชียลออยล์แห่งการบำบัด มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูและผ่อนคลายร่างกายไปพร้อมๆ กัน ขณะเดียวกัน ก็ช่วยลดอาการปวดหัวและไมเกรน ควบคุมและปรับสมดุลระบบทำงานของต่อมไขมันใต้ชั้นผิวหนัง และมีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย

“ผลส้ม” อุดมด้วยคุณค่าจากธรรมชาติ โดยเฉพาะ วิตามีนซี ที่มีสารช่วยขจัดความหมองคล้ำของผิวพรรณ บำรุงผิวใหม่ให้ขาวเนียน และลบรอยแห้งกร้าน ทำให้ผิวพรรณแข็งแรงขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์

เคล็ดลับดูแลผิวสวยด้วยธรรมชาติ

เคล็ดลับดูแลผิวสวยด้วยธรรมชาติ
ผู้หญิงทุกคนต้องการเป็นเจ้าของเรือนร่างและผิวพรรณที่สดใส จึงได้พยายามแสวงหาเทคโนโลยีต่างๆ มาเป็นเครื่องดูแลผิว แต่ความจริงแล้วเคล็ดลับต่างๆ นั้นหาได้จากธรรมชาติรอบๆ ตัวเรานี่เอง เพียงแต่ต้องใส่ใจกับผิวพรรณ แล้วเราจะได้เป็นเจ้าของสุขภาพที่ดีไปด้วย


9 โซนสำคัญ กับสุขภาพผิวหน้า

ศาสตร์ของจีนโบราณเชื่อว่า ปัญหาสภาพผิวหน้าจากภายนอกสามารถสะท้อนถึงสุขภาพของระบบต่างๆ ภายในร่างกายได้ ดังนั้น เทรนด์ใหม่ของการบำรุงผิวหน้าที่เรียกว่า “เฟส แม็ปปิ้ง” จึงเน้นวิเคราะห์สุขภาพผิวหน้าควบคู่ไปกับปัญหาของสุขภาพร่างกายด้วยเช่นกัน โดยแบ่งความสัมพันธ์ของผิวหน้าและระบบต่างๆ ทั่วร่างกายออกเป็น 9 โซน

“หน้าผาก” สัมพันธ์กับระบบการย่อยอาหารและกระเพาะปัสสาวะ หากผิวบริเวณนี้เกิดสิวอักเสบ หรือผิวหน้าแห้งกร้านบ่อยๆ ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย พร้อมทั้งหมั่นออกกำลังกาย และทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

“คิ้ว” สัมพันธ์กับการทำงานของตับ ปัญหาผิวหน้าที่เกิดบริเวณนี้มักเป็นปัญหาสิวอุดตัน ซึ่งเกิดจากการพักผ่อนน้อย และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือทานอาหารที่มีไขมันสูง

“ใบหู” สัมพันธ์กับการทำงานของไต ถ้าใบหูแดงหรือร้อน ควรดื่มน้ำมากๆ และลดเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนและแอลกอฮอล์

“แก้ม” สัมพันธ์กับระบบทางเดินหายใจและปอด คนที่ชอบสูบบุหรี่หรือมีอาการภูมิแพ้ มักพบว่ามีอาการเส้นเลือดฝอยแตก หรือเกิดการอุดตันของเส้นเลือดฝอย ทำให้ผิวหน้าบริเวณนี้หมองคล้ำ

“ดวงตา” สัมพันธ์กับการทำงานของไต ปัญหาผิวที่เกิดบริเวณนี้ มักเป็นเรื่องรอบดวงตาคล้ำ ซึ่งอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือเกิดจากการขาดน้ำของร่างกายและระบบขับถ่ายของร่างกายทำงานไม่ปรกติ

“จมูก” และ ”ริมฝีปาก” สัมพันธ์กับความดันโลหิต ส่วนใหญ่มักเกิดปัญหาสิวอุดตัน สิวบวมแดง บริเวณจมูกและริมฝีปาก ดังนั้น ควรดื่มน้ำและพักผ่อนให้มาก เพื่อปรับสภาพความดันโลหิตของร่างกายให้เป็นปรกติ

วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

การทำวุ้นกะทิ


วุ้นกะทิ


ส่วนผสม
วุ้นชนิดเส้นแช่น้ำจนนิ่ม 3 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 5-6 ถ้วยตวง
น้ำเชื่อมข้นๆ 11/2 ถ้วยตวง
(ใช้น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวงต่อน้ำ 1/2 ถ้วยตวง)
กะทิคั้นข้นๆ 11/2 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
สีใส่อาหาร หรือน้ำใบเตย
พิมพ์วุ้น หรือกระทงเล็กๆ ประมาณ 70 กระทง

วิธีทำ
1. นำวุ้นที่แช่น้ำไว้ต้มกับน้ำเปล่าทั้งหมด(ใช้น้ำ 5 ถ้วยตวง)ต้มจนวุ้นละลายแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่ง ใส่น้ำใบเตยหรือสีและน้ำเชื่อมลงไป ส่วนที่สองใส่กะทิและเกลือ

2. นำวุ้นเส้นที่หนึ่งไปตั้งไฟเคี่ยวสักครู่เทใส่พิมพ์หรือถ้วยประมาณครึ่งพิมพ์ทิ้งไว้สักครู่ให้หน้าตึงอย่าถึงกับวุ้นแข็งเพราะจะทำให้หน้าและตัวไม่ติดกัน

3. นำส่วนผสมที่สองตั้งไฟคอยคนพอเดือดเทลงบนวุ้นที่เทไว้ ทิ้งไว้จนแข็งตัวนำเข้าตู้เย็น